top of page

ประวัติอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับวัด

โรงเรียนวัดมัชฌันติการาม

โรงเรียนวัดมัชฌันติการามตั้งอยู่เลขที่ ๒๐๓  ซอยสว่างวงศ์ ๑๑  ถนนวงศ์สว่าง  แขวงบางซื่อ  เขตบางซื่อ  กรุงเทพมหานคร

          โรงเรียนนี้เดิมเป็นโรงเรียนประชาบาล  ที่ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติประถมศึกษาเปิดเรียนเมื่อวันที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๗๕  รองอำมาตย์ศรีสงัด ศรีเพ็ญ นายอำเภอบางซื่อ  ได้ทำพิธีเปิดมีครู ๒ คน คือ นายปลั่ง ปั้นลายนาค ครูใหญ่และนายสำราญ  มหากายนันท์ เป็นครูน้อย  มีนักเรียนชาย ๓๑ คน  นักเรียนหญิง ๔๓ คน  รวม ๗๔ คน  ใช้ศาลาวัดเป็นที่เรียนในระยะเริ่มแรก

          ตำบลนี้เดิมเรียกว่า ตำบลบางซ่อน อยู่ในท้องที่อำเภอบางซื่อ จังหวัดพระนคร  ต่อมาทางราชการได้บุบอำเภอบางซื่อไปรวมกับอำเภอดุสิต  และบางเขตตำบลบางซ่อนยุบรวมเป็นตำบลบางซื่อ  โรงเรียนซึ่งมีชื่อเดิมว่า “โรงเรียนประชาบาล ตำบลบางซื่อ ณ วัดมัชฌันติการาม”

          ในปีพุทธศักราช ๒๔๙๗  ท่านเจ้าคุณพรหมมุนี เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารได้มาตรวจพบสภาพวัด  จึงได้ร่วมมือกับประชาชนตัดถนนเข้าวัด  สร้างศาลาการเปรียญใหม่  อนุญาตให้กระทรวงการศึกษาสร้างอาคารเรียนแบบถาวรขึ้นในพื้นที่สวนของวัด จึงได้ย้ายที่เรียนจากศาลาแห่งเดิมมาที่โรเรียนใหม่  ซึ่งเป็นอาคารเรียนชั้นเดียว มี๗ ห้องเรียน เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๙๗ เป็นต้นมา

          ต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๕๐๘ เทศบาลนครกรุงเทพได้ขยายเขตมาถึงตำบลบางซื่อ  โรงเรียนจึงโอนไปยังสังกัดเทศบาลนครกรุงเทพตามมติคณะรัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๐๘ และได้สร้างอาคารเรียนไม้ ๒ ชั้นจำนวน ๑ หลัง (อาคาร ๑) ๘ ห้องเรียน สร้างเสร็จเมื่อวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๐๘ ด้วยเงินการประถมศึกษา  ซึ่งจัดสรรไว้ก่อนโอนโรงเรียนมาสังกัดเทศบาล

          พุทธศักราช ๒๕๐๙ ได้ขยายชั้นเรียนถึงชั้นประถมศึกษาตอนปลาย  โดยเปิดสอนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ เป็นปีแรก  ปัจจุบันโรงเรียนวัดมัชฌันติการามมีอาคารเรียน ๔ หลัง เปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓

          โรงเรียนวัดมัชฌันติการาม  ปัจจุบันมีเนื้อที่ กว้าง ๔๒ เมตร ยาว ๑๓๕ เมตร คิดเป็นเนื้อที่ ๑,๓๑๗ ตารางวา (๓ ไร่ ๑ งาน ๑๗ ตารางวา) ตามโฉนดเลขที่ ๒๙๓๘ เล่มที่ ๓๐ หน้า ๓๘

 

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ทั้งสองสถาบันนั้นต่างมีที่มาแห่งนามสถาบันจากที่เดียวกัน กล่าวคือ วัดมัชฌันติการามนั้นเป็นนามโปรดเกล้าฯ พระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ ๕  เพื่อเป็นเกียรติแก่เข้าจอมมารดาเที่ยง  เจ้าจอมมารดาในรัชกาลที่ ๔ นามพระราชทานนี้ใช้มาตั้งแต่พุทธศักราช ๒๔๑๗  และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ทั้งชื่อสถาบันและตราสัญลักษณ์ของสถาบัน ล้วนเกี่ยวข้องกับในหลวงรัชกาลที่ ๔ ทั้งสิ้น  กล่าวคือในพุทธศักราช ๒๕๐๒ ประเทศไทยต้องการที่จะพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรื่องในด้านเศรษฐกิจเฉกเช่นประเทศที่พัฒนาแล้วต่างๆ  จึงเกิดการร่วมมือทางวิชาการจากสถาบันชั้นนำในประเทศนั้นๆ เข้ามาช่วยเหลือในด้านวิชาการเครื่องมือและส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วย  หนึ่งในสถาบันเหล่านั้นคือสถาบันเทคโนโลยีไทย–เยอรมัน  ซึ่งมีที่ตั้งอยู่บริเวณริมถนนพิบูลสงคราม จนมาถึงพุทธศักราช ๒๕๑๔ มหาวิทยาลัยได้รับพระราชทานนามจากในหลวงรัชกาลที่ ๙ ว่าสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ  พร้อมทั้งอนุญาตให้อัญเชิญ พระมหามงกุฎ ซึ่งเป็นพระบรมราชสัญจกรประจำพระองค์ของในหลวงรัชกาลที่ ๔ มาเป็นตราสถาบันตั้งแต่บัดนั้นมาจนถึงปัจจุบัน  วัดมัชฌันติการามเป็นวัดของคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตินากาย  ผู้สถาปนาคณะธรรมยุตินิกาย คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ฉะนั้นทั้ง มหาวิทยาลัยก็ดี วัดมัชฌันติการามก็ดี จึงมีการเกี่ยวข้องกันด้วยเหตุประการฉะนี้  งานต่างๆของวัดมัชฌันติการามได้รับการอุปถัมภ์ด้วยดีจากทางมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ อธิการบดี คณะผู้บริหาร คณะครูอาจารย์ เจ้าหน้าที่ บุคลากร รวมถึงนิสิตนักศึกษาของมหาวิทยาลัย  ต่างให้การอุปถัมภ์ต่อวัดมัชฌันติการามด้วยดรตามลำดับ  เช่นเดียวกันเมื่อทางสถาบันมีกิจกรรมใดที่เกี่ยวข้องกับศาสนา  ไม่ว่าจะเป็นพิธีประสาทปริญญาบัตร  ครบรอบวันคล้ายวันสถาปนา ทำบุญคณะฯ ทำบุญภาควิชาต่างๆ  รวมถึงการทำบุญตักบาตรประจำทุกเช้าวันพฤหัสบดี  ทางมหาลัยนิยมที่จะนิมนต์พระเถรานุเถระจากวัดมัชฌันติการาม  ไปเจริญพระพุทธมนต์มาเป็นเวลาช้านาน  ยิ่งงานประจำปีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่อดีตเจ้าอาวาสวัดมัชฌันติการามด้วยแล้ว  คณะครูอาจารย์ เจ้าหน้าที่ บุคลากร รวมถึงนิสิตนักศึกษาของมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเข้ามาอุปถัมภ์ต่อการร่วมทำบุญ  บูรณปฏิสังขรณ์วัดมัชฌันติการามนี้ด้วยดีตลอดมาจนถึงปัจจุบัน 

© 2023 by Indie Music Management. Proudly created with Wix.com

bottom of page